ตามทั่วไปแล้ว
ภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวสัตว์กินคน ส่วนใหญ่แล้วเหล่านักวิจารณ์มักจะเรียกภาพยนตร์ประเภทนี้ว่า
“หนังเกรดบี” ครับ เพราะเนื้อหาก็จะมีคอนเซ็ปต์ประเภทแค่ว่า คนหาย เหลือแค่ซาก พระเอกออกค้นหา เจอตัวต้นเหตุ หนี หาวิธีกำจัด ฆ่ามัน หนังจบ แต่ดันมีอีกตัวโผล่มาเพื่อทิ้งท้ายว่า มีต่อภาค 2 นะจ๊ะ
เพียงแค่เราทำแค่นี้
เราก็จะได้หนังสัตว์ยักษ์ทำร้ายคนมาแล้ว 1 เรื่อง ซึ่งตลอดหลายๆปีที่ผ่านมา
ในช่วงเวลา 40 หรือ 50 ปีมานี้ ภาพยนตร์เกรดบีพวกนี้
ก็ยึดมั่นในการลำดับเหตุการณ์แบบนี้มาตลอด และสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ
หุ่นสัตว์ประหลาดที่ใช้ในการถ่ายทำ ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ยุคสมัยที่ CG ยังไม่แพร่หลาย
หากพูดถึงในยุคปัจจุบัน
ภาพยนตร์แนวสัตว์กินคน มีมากมายให้เราเลือกสรรมาดู มีทั้งที่เนื้อเรื่องดี แต่ CG แย่ หรือเรื่องที่ CG พอไปวัดไปวาได้
แต่เนื้อเรื่องกลับทำออกมาไม่เป็นสับปะรด
แต่ผมอยากแนะนำว่า
หากใครชอบภาพยนตร์แนวสัตว์กินคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสัตว์เลื้อยคลานอย่าง “จระเข้”
แล้วล่ะก็ สามารถหาได้ไม่ยาก เพราะจระเข้นั้นถูกจับมาเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์แนวระทึกขวัญหลายต่อหลายเรื่อง
ที่ Make ให้จระเข้นั้น
กลายสภาพเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์
และจงใจล่าแต่คนเป็นอาหารจานหลักเพียงอย่างเดียว หรือบางเรื่อง
อาจจะตัดต่อพันธุกรรมให้จระเข้นั้น รวมร่างกับสัตว์ประเภทอื่นให้มีความเร็ว
หรือฉลาดขึ้น
ผมอยากแนะนำภาพยนตร์แนวจระเข้ยักษ์เรื่องหนึ่ง
ที่โดดเด่นทั้งเนื้อเรื่อง คอมพิวเตอร์กราฟิคที่สมจริง
และหุ่นประกอบฉากที่ทำได้เนียนจนเหมือนกับว่ามีชีวิตจริง อีกทั้ง
ฉากในเรื่องยังดูลึกลับและน่ากลัวสมแล้วที่มาจากค่าย 20Th Century Fox ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของ
Hollywood ตำนานของภาพยนตร์จระเข้ยักษ์ที่โด่งดังในช่วงปลายยุค
90 ... Lake Placid … โคตรเคี่ยมบึงนรก

ใครที่คิดว่าภาพยนตร์เกี่ยวกับจระเข้ยักษ์ เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์เกรดบีกระจอกๆแล้วล่ะก็ ผมอยากให้คุณลองไปหาที่ร้าน DVD แล้วลองมองหาสันกล่อง DVD ที่เขียนชื่อเรื่องว่า LAKE PLACID แล้วลองนำมาดูซักครั้งครับ แล้วคุณจะเข้าใจดีว่าทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงถูกยกย่องว่าเป็นหนังเกี่ยวกับจระเข้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล
การด้านบทภาพยนตร์ ได้นักเขียนบทมือทองที่เคยฝากฝังผลงานในเรื่อง “L.A. Law” อย่าง เดวิด “เอ็ดเวอร์ด เคลลี่ย์” มารับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ควบคู่กับทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ไปด้วยในตัว บวกกับฝีมือการกำกับของ “สตีฟ ไมเนอร์” อีก 1 ผู้กำกับชื่อดังที่เคยผ่านงานการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังในยุค 80 อย่าง “Friday the 13th” มาก่อน อีกทั้ง การออกทุนทุกอย่างนั้น ทาง 20th Century Fox เป็นผู้จัดการทั้งหมด เรียกว่าเป็นการสร้างภาพยนตร์จระเข้ยักษ์ที่เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ไม่ใช่ภาพยนตร์เกรดบีธรรมดาๆแล้ว
เนื้อเรื่องได้กล่าวถึง การไล่ล่าจระเข้กินคนขนาดความยาว 30 ฟุต ที่อาละวาดอยู่ในทะเลสาบ “แบล็คเลค” ในเขตรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา

STAFF
Director : สตีฟ ไมเนอร์
Producer : เดวิด เอ็ดเวิร์ด เคลลีย์ , ไมเคิล เพรสแมน , ปีเตอร์ โบการ์ท
Writter : เดวิด เอ็ดเวิร์ด เคลลีย์
Music : จอห์น อ๊อตแมน
Cinematography : ดารีน โอคาด้า
Editor : พอล ฮริสต์ , มาร์แชล ฮาร์วี่ย์
Studio : ฟินิกซ์ สตูดิโอ , สแตน วินส์ตัน สตูดิโอ
Running Time : 82 นาที
ทุนในการสร้าง : 27 ล้านดอลลาร์
ทำเงินสูงสุดใน Box Office : 56,870,414 ดอลลาร์
Making of Lake Placid
งานด้าน Visual Effect ทั้งงานคอมพิวเตอร์กราฟิค และหุ่นจระเข้ยักษ์แสนวิเศษที่ขยับชิ้นส่วนได้อย่างแนบเนียน เหมือนจริง ก็ได้สตูดิโอชื่อดัง “สแตน วินส์ตัน สตูดิโอ” (สตูดิโอผลิตฉากหรือเทคนิคพิเศษ เป็นผลงานของ สแตน วินส์ตัน อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคพิเศษของภาพยนตร์ผู้ล่วงลับเมื่อปี 2008) เป็นคนจัดการเนรมิตหุ่นจระเข้ยักษ์ขนาดความยาว 30 ฟุต (ประมาณ 8-9 เมตร) บังคับด้วยวิทยุคอนโทรลเลอร์

เนื่องจากในเนื้อเรื่องนั้น กล่าวถึงทะเลสาบที่เงียบสงบในรัฐเมน แต่ในเวลานั้น รัฐเมนก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว อาจจะเป็นได้อย่างยากลำบากในการถ่ายทำ ทางทีมงานจำเป็นต้องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นโลเกชั่นหลักที่เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบ และล้อมรอบด้วยป่าดิบ ทีมงานจึงได้เลือกเอาเขตรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดาเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ ซึ่งยังมีทะเลสาบที่เงียบสงบอย่างทะเลสาบ บันท์เซน ใช้เป็นสถานที่หลักในภารถ่ายทำ บรรยากาศที่เป็นป่าเบญจพรรณ ทะเลสาบที่น้ำนิ่งราวกับว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่ในน้ำ และกำลังจ้องมองคุณอยู่ อีกทั้งยังมีภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกับทะเลสาบธรรมชาติในรัฐเมนของจริงเช่นกัน (ทะเลสาบในรัฐเมน มีอาณาเขตเชื่อมต่อกับมหาสมุทร)

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2542 อีกด้วย
STORY
นายอำเภอ “แฮงค์ เคียช” กับ “ไมเคิล เคน” ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสอบสภาพน้ำและประชากรของตัวบีเวอร์ในทะเลสาบแบล็คเลค เคนเป็นคนดำน้ำลงไปสำรวจในทะเลสาบและให้แฮงค์อยู่บนเอ แต่เคนกลับถูกอะไรบางอย่างที่อยู่ในน้ำฆ่าตาย โดยที่แฮงค์ช่วยดึงเขากลับขึ้นมาบนเรือได้เพียงแค่ลำตัวที่เหลือเพียงท่อนบนของเคนเท่านั้น

ศพของเคนถูกส่งไปชันสูตรจนกระทั่งพบเศษฟันของสัตว์ประเภทหนึ่ง ฝังอยู่ในร่างไร้วิญญาณที่เหลือครึ่งตัวของเคน ลักษณะฟันนั้นคล้ายคลึงกับสัตว์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จึงจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือไปยัง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ เพื่อขอตัวผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานยุคก่อนประวัติศาสตร์อย่าง “เคลลี่ย์ สก็อต” ให้มาช่วยตรวจสอบ
เคลลีย์รับงานอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะเธอกำลังอยู่ในช่วงที่อกหักอยู่พอดี หลังจากที่เธอได้ตรวจเศษฟันและได้เห็นศพของเคน เธอก็ค่อนข้างเชื่อว่าสิ่งที่ทำร้ายเคน น่าจะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ประเภทหนึ่งที่อยู่ในน้ำ แต่ถึงอย่างไร เธอก็ต้องร่วมเดินทางไปกับทีมนายอำเภอและตำรวจเพื่อเดินทางไปยังทะเลสาบแบล็คเลค นำทีมโดย “แจ็ค เวลล์” และแฮงค์

ระหว่างเดินทางด้วยเรือไปในทะเลสาบ แฮงค์เจอส่วนหัวของกวางที่ถูกตัดขาด ลอยอยู่กลางน้ำ พวกเขาได้มาถึงบ้านริมน้ำที่มีฟาร์มปศุสัตว์ของ “เดโลเลส บิคเกอร์แมน” หญิงชราผู้ที่มีท่าทีพิรุธ เธอบอกว่าสามีของเธอตายไปแล้ว เธอจึงเป็นหม้าย และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานแล้ว พอแฮงค์ถามว่าทำไมสามีเธอถึงตาย เดโลเรสรีบอกทันทีว่า เธอฆ่าสามีเธอเอง เพราะสามีเธอป่วยเป็นโรคที่รักษาไมหาย
ระหว่างการตรวจสอบทะเลสาบนั้น มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง บินมาลงจอดที่ริมตลิ่ง และทีมงานตรวจสิ่งผิดปกติของนายอำเภอแฮงค์ ก็ได้พบกับ “เฮคเตอร์ เซียร์” นักชีววิทยาที่ชอบจระเข้เป็นชีวิตจิตใจ เขาขนเครื่องไม้เครื่องมือมาพร้อม และชักชวนพวกแจ๊ค ให้พายเรือแคนูไปสำรวจทะเลสาบด้วยกัน
เฮคเตอร์ใช้โซนาร์ตรวจจับวัตถุใต้น้ำระหว่างพายเรือไปกับ แจ๊ค เคลลี่ย์ และแฮงค์ และในเวลานั้นเอง เฮคเตอร์จับสัญญาณของวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำได้ และเรือแคนูของเคลลี่ย์ก็ถูกอะไรบางอย่างหนุนจนคว่ำ แต่ก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้น เคลลี่ย์กับแฮงค์ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย

ตกดึก เฮคเตอร์พยายามทำกับดักเพราะเขาเชื่อว่ามีจระเข้อยู่ในทะเลสาบ แต่กลับกลายเป็นว่า แฮงค์กลับเดินมาติดกับดักซะเองจนทำให้แฮงค์เริ่มไม่ชอบเฮคเตอร์ที่ทำอะไรตามอำเภอใจ
วันต่อมา เฮคเตอร์ แฮงค์ แจ๊ค เคลลี่ย์ และเบิร์ค ได้ใช้เรือเร็วออกไปสำรวจกลางทะเลสาบ แจ๊ค กับ เฮคเตอร์ได้อาสาจะดำน้ำลงไปสำรวจใต้ทะเลสาบ ในระหว่างที่ทั้ง 2 อยู่ใต้น้ำ มีอะไรบางอย่างมาชนเรือและทำให้เคลลี่ย์ตกน้ำไป อีกทั้ง วัตถุขนาดใหญ่ยังลากสมอเรือไปไกลทำให้เฮคเตอร์ต้องชัดเชือกที่ผูกสมอเรือออก และรีบกลับไปช่วยเคลลี่ย์
ใต้น้ำ ระหว่างที่แจ๊คกำลังดำน้ำไปทางสาหร่ายกอหนึ่ง เขาก็เห็นหางของอะไรบางอย่างว่ายหายไปในระหว่างตอไม้ แจ๊ครู้สึกหวาดกลัวจึงรีบขึ้นจากน้ำทันที คนบนเรือพยายามหาเฮคเตอร์ จนพบ และได้เข้าไปช่วยเฮคเตอร์ขึ้นเรือได้อย่างปลอดภัย แต่ในเวลานั้นเอง ระหว่างที่เบิร์คกำลังกว้านเครื่องโซนาร์ขึ้นจากน้ำ เขาก็โดนอะไรบางอย่างที่โผล่ขึ้นมา กัดหัวของเบิร์คจนขาดออกจากลำตัว เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครตั้งตัวทัน
ศพของเบิร์คถูกขนย้ายออกไป ในขณะที่แฮงค์กับเฮคเตอร์เกิดการทะเลาะกันและวิ่งไล่กันจนไปถึงริมน้ำ ระหว่างนั้นเอง มีหมีกริซลี่ย์ตัวหนึ่ง วิ่งออกมาจากป่าและเข้าโจมตีพวกแฮงค์ เฮคเตอร์หลบการตะปบได้อย่างหวุดหวิด หมีกริซลี่ย์ยืน 2 ขาและส่งเสียงคำราม แต่ในเวลานั้นเอง ผิวน้ำริมตลิ่งได้ระเบิดกระจายขึ้น และปรากฏเป็นส่วนหัวของจระเข้ขนาดมหึมาที่งับขาของหมีตัวนั้นจนล้ม และมันก็ลากหมีกริซลี่ย์ หายลงไปในน้ำ
พวกแจ๊คเชื่อแล้วว่า สิ่งที่ทำร้ายเบิร์ค เคน คือจระเข้ และยังเป็นจระเข้ขนาดใหญ่มหึมาชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เคลลี่ย์บอกว่า จระเข้ตัวนี้ไม่ใช่จระเข้พันธุ์ในอเมริกา แต่เป็นจระเข้น้ำเค็มเอเชีย หรือพันธุ์อินโดแปซิฟิก สิ่งนี้ทำให้พวกเขาแปลกใจว่าจระเข้จากเอเชียทำไมถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ จากการบอกของเฮคเตอร์ ได้บอกว่า จระเข้น้ำเค็มนั้น สามารถว่ายข้ามมหาสมุทรได้ อีกทั้ง รัฐเมนยังมีพรมแดนทางน้ำที่ติดกับปากอ่าวที่ออกสู่ทะเลได้
วันต่อมา แจ๊คนำลูกทีม และเคลลี่ย์ออกตรวจตราตามชายป่า จนพบรอยเท้าขนาดใหญ่ ในขณะที่เฮคเตอร์ชวนเพื่อนของแฮงค์ นำเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจอ่าวแห่งหนึ่งที่เขาคาดว่า น่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของจระเข้ยักษ์ เฮคเตอร์ลงไปสำรวจใต้น้ำ และก็ถูกโจมตีโดยจระเข้ยักษ์ แต่ก็รอดมาได้ ขณะที่พวกแจ๊ค ก็พบความจริงที่ว่า นางเดโลเรสนั้น ใช้วัวในฟาร์ม เป็นอาหารเลี้ยงจระเข้ยักษ์ในทะเลสาบ แฮงค์จึงตัดสินใจที่จะจับกุม อีกทั้งยังกักบริเวณเฮคเตอร์ที่ชอบทำอะไรตามอำเภอใจ

แจ๊คติดต่อหน่วยล่าสังหารมาเพื่อฆ่าจระเข้ ต่เฮคเตอร์ขอโอกาสแจ๊ค ลองใช้วิธีจับเป็นด้วยการใช้วัว ผูกสลิงกับเฮลิคอปเตอร์ และยิงด้วยปืนยาสลบ แผนการนี้ทำท่าจะล้มเหลวเมื่อจระเข้ยักษ์ไม่ยอมปรากฏตัว แต่เมื่อตกกลางคืน จระเข้ยักษ์ตัวยาวกว่า 30 ฟุตก็ปรากฏตัวขึ้น แรงสะเทือนของผิวน้ำและน้ำนัหที่โถมขึ้นมาของจระเข้ ที่หมายจะงับวัว ทำให้เฮคเตอร์บังคับ ฮ.พลาด ฮ.จึงตกลงไปกลางทะเลสาบ
จระเข้ยักษ์เปลี่ยนเป้าหมายขึ้นโจมตีคนบนฝั่ง เคลลี่ย์ถูกไล่ล่าโดยจระเข้ เธอจึงว่ายน้ำหนี โดยหมายจะหนีไปให้ถึง ฮ.ของเฮคเตอร์ และจังหวะที่ เคลลี่ย์กับเฮคเตอร์ กระโดดหนีการพุ่งเข้าปะทะของจระเข้ จึงเป็นเหตุให้ยักษ์ใหญ่ตัวนี้ หัวติดเข้าไปในซากของเฮลิคอปเตอร์ และด้วยฤทธิ์ยาสลบ ทำให้มันน็อคไปในที่สุด
ทำท่าว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เฮคเตอร์กลับโดนจระเข้ยักษ์อีกตัวหนึ่งที่เป็นคู่ของตัวที่ถูกจับ กัดเข้าที่ขา แต่ก็ไม่เป็นไรมาก แฮงค์จึงจัดการลั่นไกด้วยปืนยิงกระสุนระเบิด นัดเดียวจระเข้อีกตัวหนึ่งก็หัวกระจุยทันที
ทีมล่าสังหารมาถึง แต่ก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าแกงกัน เพราะพวกแจ๊คสามารถจับจระเข้ยักษ์ตัวนี้ได้ และพวกเขาตดสินใจจะนำมันไปรักษาตัวที่พอร์ทแลนด์ ก่อนที่จะนำมันไปปลอ่ยที่บึงที่ไหนซักแห่งที่ไม่มีผู้คนเข้าไปถึง
ช่วงท้ายเรื่อง หลังจากจระเข้ยักษ์คู่นี้ หายไปจากทะเลสาบ นางเดโลเรส ยังแอบเลี้ยงลูกจระเข้อีก 4 ตัวซึ่งเป็นลุกของเจ้ายักษ์ 2 ตัวนั่นไว้ และนั่นก็คือเหตุการณ์ที่จะต่อเนื่องไปยัง Lake Placid 2 นั่นเอง
CHARACTERS

นายตำรวจแจ๊ค เวลล์ / แสดงโดย บิล พูลแมน
นายตำรวจหนุ่มไฟแรง ตัวเอกของเรื่อง เขาเป็นคนรัฐเมนโดยกำเนิด มีนิสัยจริงจังกับงาน เป็นหัวหน้าทีมล่าจระเข้ในภารกิจครั้งนี้ เคยลงไปสำรวจในทะเลสาบ จนพบกับหางของจระเข้ยักษ์ว่ายอยู่ไกลๆ ทำให้เขารู้สึกผวากับสิ่งที่อยู่ในทะเลสาบ ในระหว่างภารกิจนั้น เขาเริ่มหลงรักกับเคลลี่ย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลาน

เคลลี่ย์ สก็อต / แสดงโดย บริดเจ็ท ฟอนด้า
นักวิจัยสาวที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานยุคก่อนประวัติศาสตร์ ปกติจะทำงานที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติในนิวยอร์ค เป็นคนรักสบาย ติดหรู ตอนแรกเธอทนไม่ได้ที่ต้องมานอนกลางดินกินกลางทรายในป่าแบบนี้ แต่เธอเริ่มปรับตัวได้ และเริ่มชอบแจ๊ค เธอเคยโดนจระเข้หนุนเรือจนคว่ำ และเธอเคยต้องดำน้ำหนีจระเข้ยักษ์ที่ไล่ตามมาติดๆ ภายหลังเธอยังได้คบกับแจ๊คในฐานะคู่รักอีกด้วย

นายอำเภอแฮงค์ เคียช / แสดงโดย เบร็นดัน กลีสัน
นายอำเภอของรัฐเมน เป็นคนที่พบเจอเหตุการณ์ที่เคน เพื่อนของเขาถูกจระเข้ยักษ์ กัดขาด 2 ท่อน เป็นคนใจร้อน หุนหัน กล้าได้กล้าเสีย ไม่ถูกชะตากับเฮคเตอร์เอามากๆ มีอาวุธคู่ใจเป็นปืนยิงกระสุนระเบิด ตอนหลังเขาได้ยอมรับความเป็นเพื่อนกับเฮคเตอร์ และได้ติดรถพยาบาลตามไปดูอาการของเฮคเตอร์

เฮคเตอร์ เซียร์ / แสดงโดย โอลิเวอร์ แพลท
นักชีววิทยาที่หลงรักจระเข้แบบสุดๆ เป็นคนออกแนวบ๊องๆ แต่ก็ฉลาดในการวางแผน เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ชอบขี้หน้าแฮงค์เท่าไหร่ รู้จักกับเคลลี่ย์มาก่อน เพราะเคยทำงานด้วยกัน มีประวัติในการว่ายน้ำกับจระเข้มาก่อน ทำให้ตัวเขาแทบไม่กลัวสัตว์เลื้อยคลานแบบจระเข้ แต่เขาก็ต้องกลัว เมื่อเจอจระเข้ยักษ์ในระยะประชิดเข้าจนได้ เฮคเตอร์นี่เองที่เป็นคนวางแผนในการจับจระเข้ยักษ์

เดโลเรส บิคเกอร์แมน / แสดงโดย เบทตี้ ไวท์
หญิงสาวชรา ผู้เป็นหม้าย เธอกุมความลับสำคัญไว้ว่า เธอเองที่เป็นคนนำวัวในฟาร์มไปเป็นอาหารให้กับจระเข้ยักษ์ในทะเลสาบ เธอหลอกว่าสามีเธอตายเพราะเธอฆ่าเขา เพราะเขาเป็นโรคร้าย แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น อีกทั้ง เธอยังกุมความลับไว้อีกอย่างว่า จระเข้ยักษ์ ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว
เบอร์นี่ บิคเกอร์แมน
สามีของนางเดโลเรส เสียชีวิตไปแล้ว การเสียชีวิตของเขาได้รับการเฉลยในภายหลังว่า ในวันหนึ่ง มีม้าหลุดไปที่ริมทะเลสาบ และมันกำลังจะถูกจระเข้งับ เบอร์นี่ได้ถลาเอาตัวเข้าไปขั้นกลาง ทำให้เขาถูกจระเข้ยักษ์กินเข้าไปแทน และเบอร์นี่นี่เอง ที่เป็นคนเจอจระเข้ผัวเมียคู่นี้เป็นคนแรกระหว่างไปตกปลา ทำให้ทั้ง 2 สามีภรรยา เลี้ยงจระเข้คู่นี้ไว้เหมือนกับสัตว์เลี้ยง

เบิร์ค / แสดงโดย เจด รีส
ผู้ช่วยนายอำเภอ ลูกน้องของแฮงค์ เสียชีวิตเพราะถูกจระเข้กัดหัวขาดระหว่างกำลังกว้านโซนาร์ขึ้นจากน้ำ

ไมเคิล เคน
เพื่อนของแฮงค์ เป็นนักประดาน้ำที่ลงไปสำรวจในทะเลสาบเพื่อตรวจคุณภาพน้ำ และตรวจสอบรังของบีเวอร์ แต่ตายเพราะถูกจระเข้ยักษ์กัดจนตัวขาดเป็น 2 ท่อน
SPECIES OF CREATURE

คาแรคเตอร์ที่สำคัญสำหรับภาพยนตร์จระเข้ยักษ์เรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้นจระเข้ยักษ์พันธุ์น้ำเค็ม 2 ตัวที่มีขนาดยาวกว่า 30 ฟุต เจ้า 2 ตัวนี้อพยพมาจากเอเชีย และเข้ามากบดานในทะเลสาบแบล็คเลค รัฐเมน จากการค้นคว้าเกี่ยวกับพฤติกรรมการย้ายถิ่นฐานของจระเข้น้ำเค็ม ทางมหาวิทยาลัยซิดนี่ย์ได้เปิดเผยว่า จระเข้น้ำเค็มที่มีขนาดใหญ่นั้น สามารถว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรได้อย่างสบายๆ โดยมันจะปล่อยตัวให้ลอยไปกับกระแสน้ำเรื่อยๆ เคยมีรายงานว่า ทางรัฐควีนส์แลนด์ พบจระเข้น้ำเค็มที่ไม่ใช่พันธุ์ออสเตรเลีย แต่เป็นพันธุ์เอเชียแท้ แต่กลับมาว่ายน้ำป้วนเปี้ยนอยู่ที่ออสเตรเลียได้
จากใจผู้เขียน
สำหรับผมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เกี่ยวกับจระเข้ยักษ์ที่ผมได้ดู และเป้นภาพยนตร์เรื่องแรกที่แม่ของผมพาไปดูในโรงภาพยนตร์ เป็นทั้งความทรงจำ แรงบันดาลใจในหลายๆอย่าง ที่ผมได้นำไปประยุกต์ใช้ในงานเขียนนิยายต่างๆหลายเรื่อง สำหรับใครที่มองว่า เป็นแค่ "หนังเกรดบีห่วยๆ" เรื่องหนึ่ง ลองหยิบมันออกมาดูซักครั้งเถอะครับ มันอาจจะเปลี่ยนความคิดคุณได้บ้างเหมือนกัน ลองเปิดใจแล้วลองดูครับ ว่ายังมีหนังสัตว์ยักษ์ทำร้ายคนที่เป็นหนังเกรด A+ ลงทุนสร้างสูง และเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ หลบซ่อนตัวอยู่ในกองของหนังเกรด B เหมือนกัน เขาว่ามีเพชรในตม แน่นอนว่าหนังเกรด A ก็สามารถแฝงตัวอยู่ในตมที่เรียกว่าหนังเกรด B ได้เหมือนกัน Lake Placid เรื่องนี้อาจจะตอบโจทย์บางอย่างที่คุณหามานานอยู่ได้ก็เป็นได้นะครับ
บทความโดย Himeya Jun (BaiToNg)